เลขาธิการใหม่ สวทน. ถอดรหัสประเทศไทย แนะนวัตกรรมแห่งอนาคตปูเส้นทางสู่ไทยแลนด์ 4.0
2 สิงหาคม 2559
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2559 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ได้จัดงานแถลงข่าวในหัวข้อ “ถอดรหัสนวัตกรรม สู่ไทยแลนด์ 4.0 ” ณ ห้องแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สวทน. อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น14 ถนนพญาไท กรุงเทพฯ โดย ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ เลขาธิการ สวทน. ดำเนินรายการโดย คุณอภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ ภายในงานมีการให้รายละเอียดถึงวิวัฒนาการของโมเดลการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ตั้งแต่ไทยแลนด์ 1.0 จนถึงปัจจุบัน คือ โมเดลไทยแลนด์ 3.0 พร้อมทั้งเปรียบเทียบตัวเลขสัดส่วนการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาต่อจีดีพีของไทยที่มีทิศทางที่ดี และมีแนวโน้มขยับขึ้นไปสู่เป้าหมาย ร้อยละ1 ได้ในปี 2561
ดร.กิติพงค์ฯ กล่าวว่า ประเทศเกาหลีใต้เป็นตัวอย่างของประเทศที่ใช้ วทน. ในการนำประเทศออกจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง หากเปรียบเทียบกับประเทศไทยในด้านโครงสร้างพื้นฐานด้าน วทน. ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ จะเห็นว่าประเทศไทยยังรั้งอันดับที่ 47 ซึ่งยังห่างไกลกับประเทศเกาหลีใต้ ที่ติดอันดับ 8 จากการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขัน (IMD World Competitiveness) ล่าสุด ปี 2559 ที่มีประเทศถูกจัดอันดับทั้งหมด 61 ประเทศ หากมองถึงรายได้ประชาชาติของทั้ง 2 ประเทศ ปี 2557 เกาหลีใต้มีรายได้ต่อหัวสูงถึงประมาณ 28,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ประเทศไทยมีรายได้ต่อหัวเพียง 5,997 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งที่ในปี 2513 รายได้ของทั้ง 2 ประเทศ อยู่ในระดับเดียวกันคือประมาณ 200 ดอลลาร์สหรัฐ หากเปรียบเทียบลงลึกไปถึงการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาต่อจีดีพี ปัจจุบันพบว่าการลงทุนในเกาหลีใต้มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 3.8 ในขณะที่ไทยมีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 0.5 อย่างไรก็ดีมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในอนาคตคาดว่าจะได้ 1% ปี 2561 และ 1.5% ในปี 2564
ดร.กิติพงค์ฯ กล่าวต่อว่า จากการศึกษาเก็บข้อมูลตัวเลขเชิงเปรียบเทียบ ของ สวทน. ถึงสัดส่วนการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนากับจีดีพีของกลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศในแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาหาร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพซึ่งเป็นกลุ่มหลักในการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ คิดเป็นจีดีพีสูงสุดประมาณ 2 ล้านล้านบาท แต่มีสัดส่วนการลงทุนด้านวิจัยพัฒนาเพียงร้อยละ 0.2 ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และบริการที่มีมูลค่าสูงมีจีดีพีประมาณ 8 แสนล้านบาท กลุ่มดิจิทัล เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อและบังคับอุปกรณ์ต่างๆ ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีสมองกลฝังตัวมีจีดีพีประมาณ 3.5 แสนล้านบาท 2 กลุ่มนี้มีสัดส่วนการลงทุนวิจัยพัฒนาไม่ถึงร้อยละ 0.2 รวมถึงการจดสิทธิบัตรต่างๆ ยังมีจำนวนที่น้อยมาก แต่เรายังได้เห็นทิศทางที่ดีในกลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ ซึ่งมีจีดีพีประมาณ 6 แสนล้านบาท กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และระบบเครื่องกลที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม ซึ่งมีจีดีพีประมาณ 1 ล้านล้านบาท 2 กลุ่มนี้มีสัดส่วนการลงทุนวิจัยพัฒนาสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือ ประมาณร้อยละ 1
เพื่อเป็นการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศ สวทน. ได้ดำเนินโครงการศึกษาเทคโนโลยียุทธศาสตร์สำหรับสนับสนุนกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคตประเทศไทย พบว่านวัตกรรมแห่งอนาคตที่น่าจับตาที่กำลังได้รับการพัฒนาทั้งในระดับโลก หรือกำลังพัฒนาเพื่อนำมาใช้ในประเทศไทย เป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะสนับสนุนการขับเคลื่อนกลุ่มอุตสาหกรรมหลักทั้ง 5 กลุ่ม ให้สามารถก้าวเข้าสู่โมเดลไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นแบบจำลองและแผนที่ข้อมูลทางการเกษตร ระบบเกษตรกรรมอัตโนมัติ เป็นต้น เพื่อสนับสนุนกลุ่มอาหาร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ หรือการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพในการผ่าตัด เซนเซอร์อัจฉริยะตรวจวัดสภาพร่างกาย ในการสนับสนุนกลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ การพัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนกลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และระบบเครื่องกล การจัดการและการแสดงผลข้อมูลขนาดใหญ่ การพัฒนาการเข้ารหัสและถอดรหัสความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเชื่อมอุปกรณ์ สำหรับสนับสนุนกลุ่มดิจิทัล เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต และการพัฒนาด้านแอนิเมชั่น คอมพิวเตอร์กราฟฟิค เทคโนโลยีผสานโลกเสมือนจริง เพื่อต่อยอดกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และบริการ
ดร.กิติพงค์ฯ กล่าวถึง โครงการสำคัญที่ สวทน.กำลังดำเนินการเพื่อปูทางให้กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายหลักทั้ง 5 กลุ่มสามารถขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เกษตร ได้แก่ โครงการเมืองนวัตกรรมอาหาร หรือ Food Innopolis ที่มีจุดประสงค์ในการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนให้เกิดการวิจัยพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นการดึงดูดบริษัทหรือหน่วยงานวิจัยพัฒนาด้านอาหารชั้นนำของโลกมาลงทุนในกิจการด้านนวัตกรรมอาหารในประเทศไทย การสนับสนุนเอกชนไทยตั้งแต่ Startup เอสเอ็มอี จนถึงบริษัทขนาดใหญ่เพื่อสร้างรายได้ใหม่ของประเทศด้วยสินค้าและบริการจากนวัตกรรมอาหารมูลค่าสูง รวมทั้งพัฒนาบุคลากรความรู้ชั้นสูงด้านเกษตรอาหาร โครงการ Food Innopolis ได้จัดเตรียมพื้นที่กว่า 200 ไร่ ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย พร้อมทั้งจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ เช่นห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ทดสอบ นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารอีกเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านอาหาร เราคาดการณ์ว่าภายใน 5 ปี โครงการ Food Innopolis จะสามารถดึงดูดบริษัทชั้นนำของโลกทั้งจากในประเทศและต่างประเทศกว่า 100 บริษัทเข้ามาลงทุนและทำ วิจัย พัฒนา และนวัตกรรม โดยคาดการณ์ มูลค่าการลงทุนวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมถึงประมาณ 35,000 ล้านบาท และเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากการนำผลวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมไปผลิตหรือบริการไม่ต่ำกว่า 120,000 ล้านบาท รวมทั้งมีบริษัท Startup ด้านอาหารเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 100 บริษัท
อีกหนึ่งโครงการหลักที่ขับเคลื่อนโดย สวทน. ร่วมกับหน่วยงานอื่นคือ โครงการ Startup Thailand ซึ่ง สวทน. มีบทบาทในการจัดทำนโยบายเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนบริษัท Startup ครอบคลุมในหลายๆ ด้าน โดยในปี 2560 รัฐบาลจะจัดงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท สนับสนุนให้เกิด Eco-System ที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนา Startup ในประเทศไทย รวมทั้งการศึกษาแก้ไขกฎหมายบางฉบับเพื่อเอื้อให้เกิดการพัฒนา Startup อย่างเป็นรูปธรรม จากการคาดการณ์ในอีก 5 ปี คาดว่าจะมี Startup เพิ่มจำนวนกว่า 2,000 ธุรกิจ โดยเป็นธุรกิจดาวรุ่งอย่างน้อย 20 ธุรกิจ Startup District และ Co - working Space กว่า 30 แห่ง เป็นแหล่งรายได้ใหม่ทางเศรษฐกิจของไทย ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงาน นักวิทยาศาสตร์ และนักวิจัยเพิ่มขึ้นอีกมาก ดร.กิติพงค์ฯ กล่าวทิ้งท้าย
>> ดาวน์โหลด เอกสารประกอบการแถลงข่าว
>> ดาวน์โหลด ข้อความข่าว
>> ดาวน์โหลด Infographic โครงการศึกษาเทคโนโลยียุทธศาสตร์แห่งชาติด้วยเครื่องมือคาดการณ์อนาคต
ขอข้อมูลเพิ่มเติมงานประชาสัมพันธ์
นางสาวมนต์ศิริ ธรมธัช โทร: 0819225149 / นางสาวนิรมล เทพทวีพิทักษ์ 0 2160 5432 - 7 ต่อ 703
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.)
Email: pr@sti.or.th / Website: www.sti.or.th/sti