สวทน. ร่วมกับ ITRI และสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ร่วมกันจัด “การประชุมเชิงปฏิบัติการและการศึกษาดูงานเชิงวิชาการด้านยานยนต์สมัยใหม่"
2 พฤศจิกายน 2561
(สาธารณรัฐจีนไต้หวัน) สวทน. และ Industrial Technology Research Institute (ITRI), Taiwan และ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ร่วมกันจัด “การประชุมเชิงปฏิบัติการและการศึกษาดูงานเชิงวิชาการด้านยานยนต์สมัยใหม่ เรื่อง ซิสเต็มอินทริเกรชั่น (Next-Generation Automotive System Integration)” ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม 2561 ณ สถาบันวิจัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (Industrial Technology Research Institute: ITRI) เมืองซินจู (Hsinchu County) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของรัฐบาลไต้หวัน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ อาจารย์ นักวิจัย และหน่วยงานนโยบายเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ให้เกิดการศึกษาเรียนรู้และรับการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ให้มีขีดความสามารถทางด้านวิศวกรรม เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้น โดยการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาภาคเอกชนไทยและสร้างระบบนิเวศน์ (Eco-system) และการสร้างนโยบายรองรับ เพื่อสนับสนุนให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีขีดความสามารถที่เพิ่มมากขึ้นต่อไป
เนื้อหาของการประชุมเชิงปฏิบัติการ ประกอบด้วย 4 ด้านที่สำคัญ (Session) ได้แก่
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ อาจารย์ นักวิจัย และหน่วยงานนโยบายเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ให้เกิดการศึกษาเรียนรู้และรับการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ให้มีขีดความสามารถทางด้านวิศวกรรม เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้น โดยการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาภาคเอกชนไทยและสร้างระบบนิเวศน์ (Eco-system) และการสร้างนโยบายรองรับ เพื่อสนับสนุนให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีขีดความสามารถที่เพิ่มมากขึ้นต่อไป
เนื้อหาของการประชุมเชิงปฏิบัติการ ประกอบด้วย 4 ด้านที่สำคัญ (Session) ได้แก่
- Session 1: การทดสอบยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle Testing) โดย Dr.Liv Huang ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจศูนย์วิจัยและทดสอบยานยนต์ (Automotive Research & Testing Center: ARTC)
- Session 2: ระบบเทคโนโลยีแชสซียานยนต์ไฟฟ้าแบบยืดหยุ่น (The System Integration Technology of EV Flexible Chassis) โดย Dr.Yu-Ting Ling จากศูนย์วิจัยและพัฒนาวัสดุอุตสาหกรรม (Metal Industries Research & Development Centre: MIRDC)
- Session 3: ระบบเทคโนโลยีขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า (EV System Integration Technology of Electric Power Propulsion System) โดย Dr.Vincent Shih จากบริษัท ฟาราเดย์ มอเตอร์ จำกัด (Faraday Motor Co., Ltd.)
- Session 4: การพัฒนาตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV Market Development) โดย Dr.Ping-Huei Shu ที่ปรึกษาจากสมาคมวิจัยยานยนต์แห่งประเทศไต้หวัน (Taiwan Automotive Research Consortium: TARC)
นอกจากนี้ ITRI ได้นำเสนอผลงานการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องด้านยานยนต์ไฟฟ้า และการพัฒนาต้นแบบ (pilot, prototype) ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น แชสซี (Chassis) ยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถป้องกันแบตเตอรี่เสียหายหรือระเบิดจากอุบัติเหตุ การพัฒนาแบตเตอรี่ และพาผู้ประกอบการ อาจารย์ และนักวิจัยไทย เยี่ยมชมผลงานนวัตกรรมที่ได้รับรางวัลของประเทศไต้หวัน ห้องทดสอบยานยนต์ไฟฟ้า ณ ห้องปฏิบัติการวิจัยทางกลและเมคาทรอนิกส์ (Mechanical and Mechatronics Systems Research Laboratories) การเข้าเยี่ยมชมต้นแบบของรถตู้ไฟฟ้า E-Van และโครงการด้านการพัฒนาระบบยานยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Intelligent Mobility Technology Divsion) และการเข้าเยี่ยมชม SWAGO, e-Scooter System ณ ห้องปฏิบัติการวัสดุและเคมี (Material and Chemical Laboratories)
สำหรับวันสุดท้ายของการเข้าศึกษาดูงานเชิงวิชาการ ช่วงเช้า ITRI ได้พาเยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนาโลหะ (Metal Industries Research and Development Centre: MIRDC) ณ เมืองเกาสง (Kaohsiung) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่ทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำด้านโลหะสำหรับภาคอุตสาหกรรมไต้หวัน ได้แก่ โลหะขั้นพื้นฐาน ผลิตภัณฑ์จากโลหะ อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ขนส่ง เครื่องมือวัดอุตสาหกรรม เป็นต้น และช่วงบ่ายเดินทางไปเยี่ยมชมการผลิตสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า (e-Scooter) และระบบจัดการแบตเตอรี่แบบจอดแล้วเปลี่ยน (Swap) ณ บริษัท KYMCO ซึ่งเป็นผู้ผลิตจักรยานยนต์รายใหญ่ของประเทศไต้หวัน และพัฒนาผลิตภัณฑ์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าภายใต้ชื่อสินค้า inonex
กล่าวโดยสรุป การเสริมสร้างให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไต้หวันสามารถเกิดขึ้นมาได้ไม่ใช่เกิดขึ้นจากความสามารถของภาคอุตสาหกรรมและสถาบันวิจัยชั้นสูงที่สร้างองค์ความรู้ขั้นสูงและนวัตกรรมที่ทันสมัยขึ้นมาได้แต่เพียงอย่างเดียว แต่ปัจจัยที่ล้ำหน้าไปกว่าความความรู้เชิงวิชาการซึ่งมีความสำคัญและขาดไม่ได้คือการกำหนดนโยบายด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งภาครัฐทราบถึงความสำคัญข้อนี้เป็นอย่างดี จึงได้กำหนดโพซิชั่น position และทิศทางที่จะมุ่งไปสู่ที่ชัดเจน การกำหนดออกแบบวิธีการที่จะไปถึง และการลงมือทำให้เกิดผลสำเร็จอย่างจริงจัง โดยรัฐบาลวิเคราะห์วางแผนและออกแบบนโยบายเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคเอกชนตั้งแต่แรกเริ่ม ควบคู่ไปกับการลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยี การพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต การให้การสนับสนุนทางด้านการเงินและการให้ตลาดภาครัฐ และการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและกลุ่มเอกชนที่เข้มแข็ง
ผลที่ได้รับจากการประชุมเชิงปฏิบัติการบูรณาการอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ การเข้าเยี่ยมชมศูนย์วิจัย และบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ของผู้ประกอบการ อาจารย์ นักวิจัย และหน่วยงานนโยบายเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ณ ไต้หวัน ในครั้งนี้ ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจในภาพรวมของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ทำให้ทราบถึงกุญแจสำคัญ (Key Success Factors) และองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้ได้รับความรู้ความเข้าใจเชิงลึกและเกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และสร้างโอกาสในการสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าร่วมกันในอนาคต เกิดเครือข่าย (Network) ผู้ประกอบการ อาจารย์ นักวิจัยด้านยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยและไต้หวันเพื่อการพัฒนาร่วมกันต่อไป
สำหรับวันสุดท้ายของการเข้าศึกษาดูงานเชิงวิชาการ ช่วงเช้า ITRI ได้พาเยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนาโลหะ (Metal Industries Research and Development Centre: MIRDC) ณ เมืองเกาสง (Kaohsiung) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่ทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำด้านโลหะสำหรับภาคอุตสาหกรรมไต้หวัน ได้แก่ โลหะขั้นพื้นฐาน ผลิตภัณฑ์จากโลหะ อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ขนส่ง เครื่องมือวัดอุตสาหกรรม เป็นต้น และช่วงบ่ายเดินทางไปเยี่ยมชมการผลิตสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า (e-Scooter) และระบบจัดการแบตเตอรี่แบบจอดแล้วเปลี่ยน (Swap) ณ บริษัท KYMCO ซึ่งเป็นผู้ผลิตจักรยานยนต์รายใหญ่ของประเทศไต้หวัน และพัฒนาผลิตภัณฑ์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าภายใต้ชื่อสินค้า inonex
กล่าวโดยสรุป การเสริมสร้างให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไต้หวันสามารถเกิดขึ้นมาได้ไม่ใช่เกิดขึ้นจากความสามารถของภาคอุตสาหกรรมและสถาบันวิจัยชั้นสูงที่สร้างองค์ความรู้ขั้นสูงและนวัตกรรมที่ทันสมัยขึ้นมาได้แต่เพียงอย่างเดียว แต่ปัจจัยที่ล้ำหน้าไปกว่าความความรู้เชิงวิชาการซึ่งมีความสำคัญและขาดไม่ได้คือการกำหนดนโยบายด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งภาครัฐทราบถึงความสำคัญข้อนี้เป็นอย่างดี จึงได้กำหนดโพซิชั่น position และทิศทางที่จะมุ่งไปสู่ที่ชัดเจน การกำหนดออกแบบวิธีการที่จะไปถึง และการลงมือทำให้เกิดผลสำเร็จอย่างจริงจัง โดยรัฐบาลวิเคราะห์วางแผนและออกแบบนโยบายเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคเอกชนตั้งแต่แรกเริ่ม ควบคู่ไปกับการลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยี การพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต การให้การสนับสนุนทางด้านการเงินและการให้ตลาดภาครัฐ และการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและกลุ่มเอกชนที่เข้มแข็ง
ผลที่ได้รับจากการประชุมเชิงปฏิบัติการบูรณาการอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ การเข้าเยี่ยมชมศูนย์วิจัย และบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ของผู้ประกอบการ อาจารย์ นักวิจัย และหน่วยงานนโยบายเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ณ ไต้หวัน ในครั้งนี้ ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจในภาพรวมของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ทำให้ทราบถึงกุญแจสำคัญ (Key Success Factors) และองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้ได้รับความรู้ความเข้าใจเชิงลึกและเกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และสร้างโอกาสในการสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าร่วมกันในอนาคต เกิดเครือข่าย (Network) ผู้ประกอบการ อาจารย์ นักวิจัยด้านยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยและไต้หวันเพื่อการพัฒนาร่วมกันต่อไป