“ฟู้ดอินโนโพลิส” หนุนพัฒนาบุคลากรด้านประสาทสัมผัส เผยเทรนด์โลกต้องการนวัตกรรมประกอบการตัดสินใจเลือกบริโภค
6 กุมภาพันธ์ 2561
ดร.อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ ซีอีโอเมืองนวัตกรรมอาหาร กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ร่วมกับ สักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว) จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ภาคเอกชนเกี่ยวกับกลไกการสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารด้วยเทคโนโลยี การทดสอบรสชาติอาหารด้วยประสาทสัมผัส ซึ่งมีความสำคัญมากกับการพัฒนานวัตกรรมอาหาร ทั้งนี้ อาหารต่อให้หน้าตาดีแค่ไหน หากรสชาติไม่ถูกปากผู้บริโภคก็ไม่มีความหมายด้วยเหตุนี้ เมืองนวัตกรรมอาหารก็ได้จัดกิจกรรมขึ้นมา เพื่อถ่ายทอดให้กับผู้ประกอบการที่สนใจได้นำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ได้มากยิ่งขึ้น
“ด้วยนวัตกรรมด้านการประเมินประสาทสัมผัสของอาหารที่นำเอาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยศิลปากรที่ทำให้การทดสอบประสาทสัมผัสสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถทดสอบได้หลาย ๆ พื้นที่และภูมิภาคพร้อม ๆ กันและนำผลมาวิเคราะห์เปรียบเทียบได้อย่างรวดเร็ว” ดร.อัครวิทย์ กล่าว
ดร.สุจินดา ศรีวัฒนะ คณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ด้วยเทรนด์ที่มาแรง ทำให้ตลาดแรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างต้องการบุคลากรทางด้านการทดสอบประสาทสัมผัสมาก องค์ความรู้ด้านประสารทสัมผัสครอบคลุมทั้ง หู ตา จมูก ลิ้น กาย และจิตใจ ค่าตอบแทนบุคลากรด้านนี้จึงค่อนข้างสูง
ด้าน ดร.สุเชษฐ์ สุหเสนีโต จาก คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า ปัจจุบัน สินค้าประเภทอาหารที่ไทยส่งออกมีมูลค่าถึงล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบซึ่งมีราคาต่ำ และมีการแข่งขันสูงในประเทศ ทำให้ประเทศไทยสูญเสียตำแหน่งการเป็นผู้นำในการส่งสินค้าวัตถุดิบลงทุกปี การพัฒนาสินค้าแปรรูปเป็นทางออกในการเพิ่มมูลค่าและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดเป็นความสำคัญและจำเป็น ด้วยความจำเป็นดังกล่าว เมืองนวัตกรรมอาหารจึงได้ดำเนินการจัดตั้งหน่วยงาน Thailand Sensory Network โดยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดอบรมในหลาย ๆ หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบประสาทสัมผัส และทำคู่มือการออกแบบห้องทดสอบประสาทสัมผัส เพื่อเสริมทักษะให้กับบุคลากรด้านนี้ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคมีความหลากหลาย แต่ละภาค แต่ละประเทศก็มีความต้องการไม่เหมือนกัน การทำการตลาดต้อง โฟกัสที่ผู้บริโภคเป็นหลัก เช่น คนไทยเน้นความอร่อย แม้อาหารจะอยู่ไกลแค่ไหนก็จะดั้นด้นไปหามาบริโภค ขณะที่พฤติกรรมของฝรั่งเน้นที่ความอร่อยและไม่ไกลมาก
ดร.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ นอกจากจัดอบรม แล้ว จะทำเป็นหลักสูตรกลางเพื่อเป็นมาตรฐานของเครือข่ายโดยอ้างอิงมาตรฐานสากล รวมทั้งจัดทำระบบการอบรม ครอบคลุมถึง เนื้อหา สื่อการสอน การประเมินผล และการรับรองผล ผู้สนใจสมัครสมาชิกได้ฟรี 1 ปี หมดเขตรับสมัครถึง 14 กุมภาพันธ์ นี้