สวทน. โหมโรง สเปียเฮดด้านเศรษฐกิจ เฟ้นโครงการขนาดใหญ่ มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ผ่านการประชุมพัฒนาโจทย์วิจัยด้านอาหารฟังก์ชั่นและอาหารที่ทำหน้าที่พิเศษ

14 กันยายน 2560  



ดร.อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ รองเลขาธิการ สวทน. และซีอีโอเมืองนวัตกรรมอาหาร นำเสนอหลักการและความสำคัญของการพัฒนาโจทย์วิจัยด้านอาหารฟังก์ชั่นและอาหารที่ทำหน้าที่พิเศษ สำหรับโปรแกรม สเปียเฮด ด้านเศรษฐกิจ โดยมีนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ และบริษัทเอกชนกว่า 10 ราย ร่วมรับฟัง โดยการจัดการประชุมพัฒนาโจทย์วิจัยฯ ดังกล่าวเป็นเสมือนการจับคู่ธุรกิจ ระหว่างนักวิจัย กับ บริษัทเอกชนที่สนใจลงทุนด้านงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อร่วมหาความเป็นไปได้ในการร่วมมือด้านการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้อย่างแท้จริง และหากการจับคู่ธุรกิจมีความเป็นไปได้ และมีแนวทางการพัฒนาสู่โปรแกรม สเปียเฮด ด้านเศรษฐกิจ นักวิจัยและบริษัทเอกชนก็สามารถยื่นข้อเสนอแผนงาน สเปียเฮด แก่ สวทน. เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไปได้

 

นอกจากการประชุมพัฒนาโจทย์วิจัยฯ แล้ว สวทน. ยังจัดให้มีการเวิร์คช็อป สำหรับนักวิจัยและบริษัทเอกชนที่สามารถจับคู่กันได้แล้วเพื่อพัฒนาข้อเสนอโครงการวิจัย โดยจะมีนักวิจัยนโยบายจาก สวทน. มาให้การสนับสนุนด้านการสืบค้นแนวโน้มเทคโนโลยีจากฐานข้อมูลสิทธิบัตร การวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารสิทธิบัตร การสืบค้นข้อมูลด้านการตลาดจากฐานข้อมูลเพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาข้อเสนอโครงการด้วย

 

สำหรับแผนงาน สเปียเฮด ด้านเศรษฐกิจ คือ แผนงาน หรือโครงการวิจัยและนวัตกรรมขนาดใหญ่ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้สูงในสาขาเป้าหมายของประเทศอย่างเป็นรูปธรรมและวัดผลได้ ซึ่งได้กำหนดประเด็นแผนงานยุทธศาสตร์ในระยะแรกตามยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ 20 ปี (พ.ศ.2560 2579) โดยลักษณะแผนงาน จะต้องมีความเป็นไปได้ทางการตลาด มีความเป็นไปได้ด้านเทคโนโลยี การผลิตและมาตรฐานคุณภาพของผลิตภัณฑ์ มีผู้ประกอบการที่พร้อมจะลงทุนให้เกิดการผลิตและจำหน่าย และงานที่จะดำเนินงานต้องอยู่ใน Technology Readiness Level ขั้นต่ำที่ระดับ 5 มีผลลัพธ์หรือผลผลิตที่ชัดเจนเมื่อดำเนินโครงการไปแล้วภายใน 2 ปี และ 3 ปี สำหรับด้านการแพทย์ รวมถึงเมื่อสิ้นสุดการดำเนินงานจะต้องเกิดผลงานที่พร้อมใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ และหน่วยงานร่วมดำเนินการต้องประกอบด้วยเอกชนอย่างน้อย 1 รายและหน่วยงานวิจัยที่สามารถรับงบประมาณจากภาครัฐได้อย่างน้อย 1 หน่วยงาน และภาคเอกชนต้องร่วมลงทุน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของมูลค่าแผนงาน โดยเป็น in-cash อย่างน้อยร้อยละ 10 ของมูลค่าแผนงาน และต้องมีเอกสารยืนยันจาก

 

ภาคเอกชน ทั้งนี้ แผนงาน สเปียเฮด ด้านเศรษฐกิจ ต้องมีมูลค่าอย่างน้อย 100 ล้านบาทตลอดทั้งแผนงาน โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการ 1 3 ปี หากจำเป็นสามารถขยายเป็น 5 ปีได้

 

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 17 กันยายน 2560 นี้ หน่วยงานที่สนใจยื่นข้อเสนอแผนงาน สเปียเฮด จะต้องนำส่งแบบฟอร์มเบื้องต้นแก่ สวทน. และในวันที่ 21 กันยายน 2560 จะเป็นการประกาศผลการคัดเลือกแผนงาน สเปียเฮด ด้านเศรษฐกิจ รอบแรก

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) 

โทรศัพท์ 081-753-6119 (คุณแพรประพันธ์) 0-2160-5432 (คุณวรรณพร)

Email: pr@sti.or.th / Website: www.sti.or.th / Facebook: www.facebook/STI-สวทน.